หลักสูตรแพทย์ประจำบ้าน สาขาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา

วิสัยทัศน์และพันธกิจ

วิสัยทัศน์และพันธกิจ

วิสัยทัศน์

การเป็นสถาบันทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญทางด้านสูตินรีเวชกรรมระดับชั้นนำของกองทัพบกในภูมิภาคเอเชีย

พันธกิจ

  1. ฝึกอบรมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาซึ่งเป็นสาขาวิชาทางการแพทย์เฉพาะทางที่ต้องอาศัยความรู้อย่างกว้างขวางและลึกซึ้ง ร่วมกับความสามารถในการทำหัตถการที่ประณีตและซับซ้อน ในการดูแลสุขภาพของสตรีทั้งในวัยก่อนเจริญพันธุ์ วัยเจริญพันธุ์ และวัยหมดระดู ทั้งด้านทฤษฎีและปฏบัติตามมาตรฐานที่กำหนดโดยแพทยสภาและราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย โดยมุ่งเน้นให้การดูแลรักษาและรองรับการบริการสาธารณสุขเฉพาะด้านสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาของบุคลากรในกองทัพบก กระทรวงกลาโหม และครอบครัว รวมทั้งของประเทศอย่างเหมาะสมตามหลักมาตรฐานสากล
  2. ส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความสามารถในการสร้างงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อสร้างองค์ความรู้และสามารถค้นคว้างานวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ และเพื่อการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง สามารถพัฒนาไปสู่ความเป็นนักวิชา การ/ผู้ชำนาญการในสาขาวิชาสูติศาสตร์นรีเวชวิทยาอย่างมืออาชีพในอนาคตตามความรู้และทักษะขั้นต่ำตามสมรรถนะหลัก 6 ด้าน
  3. ส่งเสริมให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความสามารถบริหารจัดการ ให้บริการผู้รับบริการแบบองค์รวม สามารถทำงานเป็นทีมแบบสหวิชาชีพ ตลอดจนมีความรับผิดชอบ มีจริยธรรม ทัศนคติ และเจตคติที่ดีต่อผู้ป่วย ผู้ร่วมงาน และองค์กร เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคมในการบริการทางสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา สอดคล้องกับการบริบาลสุขภาพอนามัยเหมาะสมกับสภาพสังคมไทย ความหลากหลายทางวัฒนธรรม บริบทของกองทัพบกและกระทรวงกลาโห
  4. ส่งเสริมให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบสุขภาพของประเทศ การบริหารจัดการสาธารณสุข และกระบวนการคุณภาพและความปลอดภัยโดยคำนึงถึงความคุ้มค่าและคุ้มทุน

 ผลสัมฤทธิ์ของแผนงานฝึกอบรม

แพทย์ประจำบ้านที่จบการฝึกอบรมในหลักสูตรนี้ต้องมีคุณสมบัติ ความรู้และทักษะขั้นต่ำตามผลสัมฤทธิ์/ระดับความสามารถระหว่างการฝึกอบรมที่พึงประสงค์ (Intended learning outcome/milestones) ที่ครอบคลุมประเด็น 6 ด้าน ดังนี้

  • การดูแลสุขภาพสตรี (Women’s health)
  • มีทักษะในการดูแลด้านสูติศาสตร์ตั้งแต่ระยะก่อนตั้งครรภ์ ขณะตั้งครรภ์ ขณะคลอดและหลังคลอด
  • มีทักษะในการดูแลด้านนรีเวชวิทยาตั้งแต่ระยะก่อนวัยเจริญพันธุ์ วัยเจริญพันธุ์และวัยหมดระดู
  • ความรู้และทักษะหัตถการทางเวชกรรม (Medical knowledge and procedural skills)
  • เข้าใจวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐานของร่างกายและจิตใจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพสตรี
  • มีความรู้ความสามารถในวิชาชีพ และเชี่ยวชาญในสาขาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา
  • ทักษะระหว่างบุคคลและการสื่อสาร (Interpersonal and communication skills)
  • นำเสนอข้อมูลผู้ป่วย และอภิปรายปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ถ่ายทอดความรู้และทักษะ ให้แพทย์นักศึกษาแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์
  • สื่อสารให้ข้อมูลแก่ญาติ และผู้ป่วย ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ โดยเคารพการตัดสินใจและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
  • มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ทำงานกับผู้ร่วมงานทุกระดับอย่างมีประสิทธิภาพ
  • เป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำแก่แพทย์และบุคคลากรอื่น โดยเฉพาะทางสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา
  • การเรียนรู้และพัฒนาจากฐานการปฏิบัติ (Practice-based learning and improvement)
  • มีการพัฒนาตนเองและการเรียนรู้จากการปฏิบัติ (Practice-based) ความคิดสร้างสรรค์ตามหลักวิทยาศาสตร์ในการสร้างความรู้ใหม่และพัฒนาระบบบริการสุขภาพ
  • ดำเนินการวิจัยทางการแพทย์และสาธารณสุขได้
  • วิพากษ์บทความและงานวิจัยทางการแพทย์
  • เรียนรู้และเพิ่มประสบการณ์ได้ด้วยตนเองจากการปฏิบัติ
  • ความสามารถในการทำงานตามหลักวิชาชีพนิยม (Professionalism)
  • มีคุณธรรมจริยธรรมและเจตคติอันดีต่อผู้ป่วย ญาติ ผู้ร่วมงาน เพื่อนร่วมวิชาชีพ และชุมชน
  • มีทักษะด้านที่ไม่ใช่เทคนิค (Non-technical skills)
  • มีความสนใจใฝ่รู้และสามารถพัฒนาไปสู่ความเป็นผู้เรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต (Continuous professional development)
  • มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย
  • คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม
  • มีความสามารถในการทำการศึกษาวิจัยที่ถูกต้อง
  • การทำเวชปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับระบบสุขภาพ (System-based practice)
  • มีความรู้เกี่ยวกับระบบสุขภาพของประเทศ
  • มีความรู้และมีส่วนร่วมในระบบพัฒนาคุณภาพการดูแลรักษาผู้ป่วย โดยสามารถอธิบายกระบวนการคุณภาพและความปลอดภัยทางสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา
  • ใช้ทรัพยากรสุขภาพอย่างเหมาะสม (Cost consciousness medicine) และสามารถปรับเปลี่ยนการดูแลรักษาผู้ป่วยให้เข้ากับบริบทของการบริการสาธารณสุขได้ตามมาตรฐานวิชาชีพ และสามารถจัดการสถานการณ์วิกฤตทางสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาได้